
“เงินบาทอ่อนค่า ขณะที่ หุ้นไทยปรับเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1,400 จุด ก่อนจะย่อตัวลงในช่วงปลายสัปดาห์”
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยสรุปความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทว่า เงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 2 สัปดาห์ที่ 35.39 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยเงินบาทเผชิญแรงขายทำกำไรในช่วงต้นสัปดาห์ ขณะที่ เงินดอลลาร์ฯ ได้รับแรงหนุนเกือบตลอดสัปดาห์ หลังจากถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดหลายราย กระตุ้นให้ตลาดกลับมาประเมินโอกาสของการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ ในการประชุมรอบใกล้ๆ นี้อีกครั้ง นอกจากนี้ เงินบาทยังมีแรงกดดันเพิ่มเติม หลังกนง. มีมุมมองที่ระมัดระวังต่อแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย แม้ว่า จะยืนอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 1.50% ตามเดิมในการประชุมรอบนี้ก็ตาม อย่างไรก็ดี เงินบาทฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อยในช่วงปลายสัปดาห์ หลังข้อมูลการส่งออกเดือนก.พ. พลิกกลับมาขยายตัวครั้งแรกในรอบ 14 เดือน
สำหรับในวันศุกร์ (25 มี.ค.) เงินบาทอยู่ที่ 35.27 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 34.83 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (18 มี.ค.)

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (28 มี.ค.-1 เม.ย.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 35.20-35.50 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยอาจต้องจับตารายงานนโยบายการเงินของธปท. (ซึ่งจะมีการให้รายละเอียดของตัวเลขประมาณการเศรษฐกิจชุดใหม่ของธปท.) รวมถึงข้อมูลเศรษฐกิจเดือนก.พ. และอัตราเงินเฟ้อเดือนมี.ค. ของไทย ขณะที่ ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ประกอบด้วย ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร อัตราการว่างงาน ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ดัชนี ISM และ PMI ภาคการผลิต เดือนมี.ค. นอกจากนี้ ตลาดอาจติดตามถ้อยแถลงของประธานเฟด ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีนและประเทศสมาชิกยูโรโซน และอัตราเงินเฟ้อของยูโรโซน ด้วยเช่นกัน
ส่วนความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทย ดัชนี SET ปรับเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1,400 ก่อนจะย่อตัวในช่วงปลายสัปดาห์ โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,394.78 จุด เพิ่มขึ้น 0.85% จากสัปดาห์ก่อน มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้น 3.51% จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 50,715.86 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ MAI ปิดที่ 514.93 จุด เพิ่มขึ้น 1.68% จากสัปดาห์ก่อน
ตลาดหุ้นไทยปรับเพิ่มขึ้นในช่วงต้น-กลางสัปดาห์ โดยได้รับแรงหนุนจากแรงซื้อเก็งกำไรมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล รวมทั้งแรงซื้อหุ้นกลุ่มโทรคมนาคม หลังประเด็นการประมูล 4 จีมีความชัดเจนขึ้น อย่างไรก็ดี ดัชนีหุ้นไทยกลับมาปรับลดลงในช่วงปลายสัปดาห์ตามแรงขายทำกำไรของนักลงทุน รวมทั้งตลาดมีความกังวลต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด หลังเจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณถึงโอกาสในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้

ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย
สำหรับสัปดาห์ถัดไป (28 มี.ค.-1 เม.ย.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีมีแนวรับที่ 1,385 และ1,365 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,410 และ 1,430 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม คงได้แก่ การรายงานข้อมูลเศรษฐกิจรายเดือนของ ธปท. และถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟด สำหรับเครื่องชี้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่จะมีการรายงาน ประกอบด้วย ข้อมูลการค้าระหว่างประเทศ และข้อมูลตลาดแรงงาน อาทิ การจ้างงานนอกภาคการเกษตร สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจต่างประเทศอื่นๆ ที่ต้องติดตาม คงได้แก่ การรายงานดัชนี PMI ของญี่ปุ่น จีน และเยอรมนี
ทีมา: http://www.matichon.co.th/news/84284