
อากาศร้อนๆแบบนี้หลายคนคงอยากที่จะหาอะไรทานเพื่อดับร้อนกัน วันนี้เรามีเมนูดับร้อนแบบชาววังมานำเสนอ ได้แก่ ข้าวแช่ ข้าวแช่เย็นๆ หอมกลิ่นดอกไม้อ่อนๆ ทานคู่กับเครื่องเคียงที่อุดมไปด้วยสมุนไพรไทย ถ้าได้ทานคงจะสดชื่นแถมยังได้ประโยชน์จากสมุนไพรเต็มๆ เหมาะสำหรับคนรักสุขภาพมากๆ
“ข้าวแช่” ที่เราคุ้นเคยเรียกเต็มๆแบบเพราะพริ้งว่า “ข้าวแช่เสวย” หรือ “ข้าวแช่ชาววัง” ซึ่งหมายถึงข้าวแช่ลอยในน้ำดอกไม้หอมเย็นชื่นใจ ที่รับประทานกับเครื่องเคียง นิยมทำสำหรับไปถวายพระ และ มอบให้แก่ผู้ใหญ่ที่เคารพในช่วงสงกรานต์
สูตรอาหาร
วิธีการทำข้าวแช่และเครื่องเคียง
ข้าวแช่
– ข้าวหอมมะลิ 1 กระป๋อง
– น้ำต้มสุก 4 ลิตร
– ดอกมะลิ 1 ถ้วย (ดอกกุหลาบก็ได้)
– ผ้าขาวบาง
วิธีทำน้ำข้าวแช่
1.ซาวข้าวให้สะอาด ใส่น้ำตามส่วน ตั้งไฟคอยคนอย่าให้ไหม้ พอเดือดขนาดเช็ดน้ำได้ ยกลง รินน้ำทิ้งให้หมด ล้างข้าวด้วยน้ำเย็นหลายครั้งจนกว่าข้าวจะเย็น
2.ใส่น้ำในลังถึง ตั้งไฟจนเดือด ปูผ้าขาวบางบนลังถึง เทข้าวที่ล้างแล้วลงไป เกลี่ยให้กระจายทั่ว นึ่งประมาณ 10 นาทีหรือดูจนข้าวสุก ยกลง ทิ้งไว้ให้เย็น
3.เวลากินตักข้าวใส่ชาม ตักน้ำลอยดอกไม้สดใส่ กินกับเครื่องเคียง
เครื่องเคียงที่กินกับข้าวแช่
1. หัวผักกาดเค็มผัด
ส่วนประกอบ : – หัวผักกาดเค็มหั่นฝอย – ไข่ 1 ฟอง – น้ำตาลทราย
วิธีทำ : ล้างหัวผักกาดเค็มให้สะอาด หั่นฝอย ผัดกับไข่ ใส่น้ำตาลให้ออกรสหวาน
2. ปลาช่อนแห้งผัด
ส่วนประกอบ : – ปลาช่อนเค็ม – น้ำตาลทราย
วิธีทำ : นึ่งปลาพอสุก ฉีกให้เป็นฝอย ทอดให้กรอบแล้วผัดกับน้ำตาลให้พอมีรสหวาน
3. พริกหยวกสอดไส้
ส่วนประกอบ : – หมูสับ 1/2 ก.ก. – น้ำปลา 1 1/2 ช้อนชา – พริกหยวก – กุ้งสับ 10 ตัว – น้ำตาล 1 ช้อนชา – ไข่ 5 ฟอง – กระเทียมพริกไทยโขลกรวมกัน 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ : เคล้าหมู กุ้ง กระเทียมพริกไทยให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล ต่อยไข่ใส่ 1 ฟอง ปั้นเป็นแท่งยาว ทอดจนสุก ใส่หมูที่ทอดลงในพริกหยวกที่คว้านไส้ออก นึ่งในลังถึงน้ำเดือดพล่าน 5 นาที พอเย็นบีบน้ำออกให้หมด ต่อยไข่ที่เหลือ ตีพอแตก ใช้มือชุบไข่แล้วโรยขวางไปมาในกระทะที่ใส่น้ำมันพอลื่นและใช้ไฟอ่อน สุกแล้วลอกออกเป็นชิ้นๆ ห่อพริกให้รอบ
4. หอมสอดไส้
ส่วนประกอบ : – หอมแดง 20 หัว – เนื้อปลาช่อนนึ่ง 1 ตัว – เกลือป่น 1 ช.ช. – น้ำปลา 1-2 ช.ช – รากผักชีกระเทียมพริกไทยโขลกรวมกัน
1 ช.ต. – น้ำ1 ช้อนโต๊ะ – แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วย – หัวกะทิคั้นด้วยน้ำปูนใส 1 ถ้วย – ไข่ 1 ฟอง
วิธีทำ : ปอกเปลือกหอมคว้านไส้ออก สับส่วนที่คว้านออกมาให้ละเอียด ผัดรากผักชีฯให้หอม ใส่หอมสับ เนื้อปลา น้ำ หัวกะทินิดหน่อย ปรุงรสด้วยน้ำปลา เกลือ ชิมรสตามชอบ พักไว้ให้เย็น แล้วจึงยัดใส่หัวหอมที่คว้านไว้ นวดแป้งข้าวเจ้ากับหัวกะทิ โดยค่อยๆใส่กะทิทีละน้อย จนเป็นเนื้อเดียวกันและข้นขนาดนมข้น หยิบหอมลงชุบแล้วทอดให้เหลือง
5. กะปิทอด
ส่วนประกอบ : – กระชาย 7 ราก – ตะไคร้ 2 ต้น – ข่า 5 แว่น – ผิวมะกรูด 1 ช.ช. – รากผักชี 1 ช.ช. – หอมแดง 9 หัว – กระเทียม 10 กลีบ – กะปิ 1 ช.ต. – เนื้อปลาดุกย่าง 1 ตัว – ปลาฉลาดย่าง 2 ตัว
– น้ำปลาและน้ำตาลอย่างละ 1 ช.ต. – ไข่ 3 ฟอง – แป้งข้าวเจ้า 1 ช.ต.
วิธีทำ : โขลกกระชาย ตะไคร้ ข่า ผิวมะกรูด รากผักชี หอมแดง กระเทียมให้ละเอียด ใส่กะปิ เนื้อปลาโขลกให้เข้ากัน ผัดให้หอม ปรุงรสด้วยน้ำปลาน้ำตาล ผัดจนแห้ง ยกลง ทิ้งไว้ให้เย็น ปั้นเป็นก้อนกลมๆ ล็กๆ ให้เท่ากัน ต่อยไข่แล้วตีให้แตก ใส่แป้ง คนให้เข้ากัน นำกะปิที่ปั้นไว้ลงชุบแล้วทอดให้เหลือง
นอกจากเครื่องเคียงทั้ง 5 อย่างที่บอกไปแล้ว ยังสามารถเพิ่มเครื่องเคียงเพื่อให้สมบูรณืครบสูตรมากขึ้น อาจจะเพิ่ม หมูฝอย เนื้อฝอย ก็จะดียิ่งขึ้น นอกจากทานคู่ของคาวแล้ว ยังเสริมของเปรี้ยวอาทิเช่น มะม่วงดิบที่จะให้ความเปรี้ยวแก้เลี่ยน ต้นหอม กระชายที่ทำเป็นดอกจำปี แตงกวาที่แกะเป็นใบสวยงาม ทั้งหมดทั้งมวลนี้ จะเป็นชุดข้าวแช่ที่สมบูรณ์แบบสมัยรัชกาลที่ 4 และ 5 ที่ตกทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น
ทีมา: http://www.naarn.com/2106/